สุดยอดของเหลวที่หล่อหลอมมาจากแสงแดด ดิน และประเพณีอย่างไวน์ อาจดูน่ากลัวในตอนแรก
เมื่อเห็นขวดไวน์ที่เรียงรายที่เต็มไปด้วยความลึกลับ ซึ่งแต่ละขวดให้ประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร
แล้วนักสำรวจที่อยากรู้อยากเห็นควรเริ่มต้นจากตรงไหน?
เราจะพาคุณมาทำความคุ้นเคยทีละนิด ในบล็อกนี้ เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับไวน์จากสองโลก
นั่นคือ ไวน์โลกเก่า และไวน์โลกใหม่ซึ่งไวน์จากแต่ละโลกมีเรื่องราวที่ไม่เหมือนกันที่ถูกหล่อหลอมด้วยประวัติศาสตร์ สภาพภูมิอากาศและปรัชญาการผลิตไวน์ที่เป็นเอกลักษณ์
คำเหล่านี้หมายถึงอะไร?

คำว่า "โลกเก่า" และ "โลกใหม่" หมายถึงบริบททางประวัติศาสตร์และภูมิศาสตร์ของการผลิตไวน์
ไวน์โลกเก่ามาจากประเทศที่มีประเพณีการผลิตไวน์ยาวนาน และสืบทอดมาหลายศตวรรษ
ส่วนไวน์โลกใหม่ มาจากประเทศที่เริ่มผลิตไวน์ในช่วงเวลาที่ไม่นานมานี้
ต่อไปนี้คือลักษณะของแต่ละภูมิภาคพร้อมตัวอย่าง
ภูมิภาคไวน์โลกเก่า
ฝรั่งเศส: Cabernet Sauvignon, Pinot Noir, และ Chardonnay
Château Lafite Rothschild (Bordeaux), Domaine Leroy (Burgundy), Domaine Jean-Louis Chave (Rhône Valley)
อิตาลี่: Sangiovese, Pinot Grigio, Moscato
Marchesi Antinori (Tuscany), Biondi Santi (Tuscany), Gaja (Piedmont)
สเปน: Rioja, Ribera del Duero, Priorat, Rías Baixas, and Jerez
Vega Sicilia (Ribera del Duero), Torres (Catalonia), Álvaro Palacios (Priorat)
โปรตุเกส: Chardonnay, Sauvignon Blanc, Cabernet, Merlot, Pinot Noir
Niepoort (Douro Valley), Quinta do Noval (Douro Valley), Ferreira (Port)
ภูมิภาคไวน์โลกเก่า
แคลิฟอร์เนีย: Cabernet, Merlot, Pinot Noir, Zinfandel, Chardonnay, and Sauvignon Blanc
Robert Mondavi Winery (Napa Valley), Screaming Eagle (Napa Valley), Kendall-Jackson (Sonoma County)
ออสเตรเลีย: Syrah/Shiraz, Cabernet, Chardonnay, Riesling
Penfolds (South Australia), Yalumba (Barossa Valley), d'Arenberg (McLaren Vale)
นิวซีแลนด์: Pinot Noir, Sauvignon Blanc
อาร์เจนตินา: Malbec, Chardonnay, Cabernet Sauvigon
Bodega Catena Zapata (Mendoza), Bodega Bodega Luigi Bosca (Mendoza), Bodega Trapiche (Mendoza)
ชิลี: Cabernet, Chardonnay, Carmenere
แอฟริกาใต้: Cabernet, Pinotage, Chenin Blanc, Sauvignon Blanc, Chardonnay
Stellenbosch Vineyards (Stellenbosch), Kanonkop (Stellenbosch), Sadie Family Wines (Swartland)
ไวน์โลกเก่าเทียบกับโลกใหม่
อะไรที่ทำให้ไวน์สองโลกนี้ต่างกัน? มาลองสำรวจความแตกต่างหลักๆ ระหว่างไวน์โลกเก่าและไวน์โลกใหม่กันเถอะ
สภาพอากาศ
ภูมิภาคโลกเก่ามักมีสภาพอากาศที่เย็นกว่า ซึ่งทำให้องุ่นสุกช้าลง ส่งผลให้ได้ไวน์ light body ที่เบากว่า มีความเป็นกรดสูงกว่าและมีกลิ่นดินอ่อนกว่า ตัวอย่างที่ดีคือ องุ่นพันธุ์ Pinot Noir จากแคว้น Burgundy ในฝรั่งเศส ซึ่งมีกลิ่นของเชอร์รี่แดง และเห็ด
ในทางกลับกัน ภูมิภาคโลกใหม่มีสภาพอากาศที่อบอุ่นกว่า ทำให้องุ่นสุกเร็วขึ้น และมีน้ำตาลสูงกว่า
ส่งผลให้ได้ไวน์ full-body มีความเป็นกรดต่ำ และมีกลิ่นหอมที่เข้มข้นและกลิ่นผลไม้ชัดเจน เช่น ไวน์ Cabernet Sauvignon รสเข้มจาก Napa Valley ใน California ซึ่งมีกลิ่นของแบล็กเคอร์แรนท์ และพลัมสุก
เทคนิคการผลิตไวน์
ผู้ผลิตไวน์ในโลกเก่ามักให้ความสำคัญกับประเพณี และการแทรกแซงน้อยที่สุด พวกเขาชื่นชอบเทคนิคเช่นการบ่มในถังไม้โอ๊ก ซึ่งจะทำให้ไวน์มีกลิ่นของวนิลลา เครื่องเทศและขนมปังปิ้ง
ในขณะที่ผู้ผลิตไวน์โลกใหม่มักเปิดรับนวัตกรรม และการทดลองพวกเขาอาจใช้เทคนิคการหมักในถังสแตนเลสซึ่งช่วยรักษารสชาติสดใหม่ขององุ่น
พันธุ์องุ่น
ไวน์โลกเก่ามักจะตั้งชื่อตามภูมิภาค เช่น Barolo ในอิตาลี หรือ Rioja ในสเปนซึ่งมักเน้นพันธุ์องุ่นพื้นเมือง เช่น Sangiovese ในอิตาลี หรือ Tempranillo ในสเปน
ในขณะที่โลกใหม่มักจะเน้นที่พันธุ์องุ่น เช่น Chardonnay หรือ Cabernet Sauvignon ซึ่งช่วยให้สามารถระบุ และค้นพบรสชาติที่เฉพาะได้ง่ายขึ้น
ไวน์โลกไหนที่เหมาะกับคุณ?
ความงดงามของไวน์อยู่ที่การสำรวจ! นี่คือคำแนะนำสั้นๆ ที่จะช่วยให้คุณเลือกได้ง่ายขึ้น
ชอบไวน์ light body และที่มีรสเปรี้ยวเบาหรือไม่? ลองไวน์ Pinot Noir หรือ Gamay ของโลกเก่า
อยากได้ไวน์รสผลไม้เข้มข้นหรือไม่? Cabernet Sauvignon หรือ Shiraz
ของโลกใหม่อาจตอบโจทย์คุณ
เพิ่งเริ่มดื่มไวน์ใช่ไหม? เริ่มต้นด้วยไวน์ที่ได้รับความนิยม เช่น Merlot ไวน์ medium body
จากทั้งสองโลก
สำรวจทั้งไวน์โลกเก่า และไวน์โลกใหม่ที่ร้าน The Riddler

พร้อมผจญภัยไปกับไวน์ของคุณแล้วหรือยัง? แวะมาได้ที่ The Riddler Japanese Gastronomic Dining & Wine Bar ในกรุงเทพฯ รับรองว่าจะเป็นการเดินทางที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับทุกประสาทสัมผัสของคุณ
ไวน์ของเราหลากหลาย มีมากกว่า 200 รายการที่คัดสรรมาอย่างพิถีพิถันให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์ไวน์ระดับโลก ไม่ว่าคุณจะมองหาไวน์คลาสสิกจากโลกเก่าหรือไวน์แปลกใหม่จากโลกใหม่ เรามีให้ครบทุกอย่าง
แต่ความมหัศจรรย์ไม่ได้จบแค่ที่ไวน์เท่านั้น อาหารฟิวชันที่มีเอกลักษณ์ของเรารังสรรค์จากวัตถุดิบตามฤดูกาลที่ดีที่สุด ซึ่งนำเข้าจากแดนอาทิตย์อุทัยโดยตรง
ภายใต้การนำของเชฟ เชฟนรสิงห์
เมนูของเราจะเปลี่ยนแปลงอาหารญี่ปุ่นที่คุ้นเคยให้กลายเป็นสนามเด็กเล่นแห่งความคิดสร้างสรรค์
การสร้างสรรค์อาหารอย่างสนุกสนานของเขาจะแสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญด้านการทำอาหารและความอยากรู้อยากเห็นที่ไม่มีที่สิ้นสุดของเขา ทุกคำที่ทานเข้าไปเป็นการเชิญชวนให้คุณออกเดินทางผจญภัย โดยที่รสชาติคลาสสิกจะได้รับการตีความใหม่ด้วยการพลิกแพลงที่น่าตื่นเต้น Sommelier
ของเราจะคัดสรรไวน์ที่เหมาะสมมาเสิร์ฟคู่กับอาหารแต่ละจานอย่างพิถีพิถัน ไม่ว่าจะเป็นไวน์ Chianti
จากโลกเก่าหรือ Malbec จากโลกใหม่
ลิ้มรสความละเอียดอ่อนของ tomahawk ที่สุกพอดี เสิร์ฟคู่กับไวน์รสเข้ม Cabernet Sauvignon จาก Napa Valley หรือจับคู่กับ Gindara ปลาหิมะย่างหนังกรอบที่เสิร์ฟคู่กับไวน์ Pinot Noir จากแคว้น Burgundy
ที่ The Riddler ร้านอาหาร เพลินจิต ทุกจิบ และทุกคำที่ทานคือประสบการณ์ที่รอให้คุณลิ้มลอง ดังนั้นยกแก้วขึ้น เปิดรับประสบการณ์ใหม่ๆ และมาพบกันที่ The Riddler ร้านอาหาร ดินเนอร์ กรุงเทพ
ติดต่อเราเพื่อจองโต๊ะ
Comments