ลืมไวน์ Cabernet Sauvignon หรือ Chardonnay แบบเดิม ๆ ไปได้เลย ไวน์ในโลกอนาคตมาถึงแล้ว
พร้อมกับความเป็นไปได้ใหม่ ๆ ที่น่าตื่นเต้น ผู้ผลิตไวน์หน้าใหม่กำลังทลายกำแพงเดิม ๆโดยทดลองกับสายพันธุ์องุ่น เทคนิคการหมัก และวิธีการบ่ม ผู้ผลิตไวน์เหล่านี้ไม่กลัวที่จะคิดนอกกรอบ และผลลัพธ์ที่ได้ก็น่าตื่นเต้นเกินคาด
ผู้ผลิตไวน์ยุคใหม่
ขอแนะนำให้คุณรู้จักผู้ผลิตไวน์ที่มีแรงบันดาลใจ และกำลังสร้างกระแสในวงการพร้อมกับไวน์สุดพิเศษที่พวกเขารังสรรค์ขึ้น
Javier San Pedro Ortega (สเปน)
ผู้คนต่างพูดถึง Javier San Pedro Ortega ที่มาจากเขต Rioja ว่าเป็นอนาคตของไวน์สเปน
เขามาจากตระกูลผู้ผลิตไวน์ที่มีชื่อเสียงในเขต Rioja ประเทศสเปน และเติบโตในเมือง Laguardia โดยเริ่มทำไวน์ของตัวเองที่โรงบ่มไวน์ของพ่อเมื่ออายุ 17 ปี ในปี 2013 เขาตัดสินใจเริ่มต้นโปรเจ็กต์ของตัวเองและเปิดโรงบ่มไวน์ Bodegas Javier San Pedro Ortega Javier และทีมงานอายุน้อยของเขาต่างก็สร้างความประหลาดใจให้กับผู้ชื่นชอบไวน์ด้วยไวน์ Rioja คลาสสิกที่สดใหม่นักวิจารณ์ไวน์ชื่อดังอย่าง Jancis Robinson ก็เริ่มสังเกตเห็นผลงานของพวกเขาแล้ว
พวกเขาผลิตไวน์ภายใต้ 3 แบรนด์ ได้แก่ "Cueva de Lobos" (Wolves' Cave) ซึ่ง Javier บรรยายว่าเป็นไวน์ที่สนุกสนาน ทันสมัย และมีกลิ่นหอม "Viuda Negra" (Black Widow) ซึ่งทำจากเถาองุ่นที่เก่าแก่ของภูมิภาคนี้ และ "Anahí" ซึ่งเป็นไวน์ขาวรสหวานที่ตั้งชื่อตามแม่ของ Javier เป้าหมายของพวกเขาคือการผลิตไวน์แท้ที่สะท้อนถึงถิ่นกำเนิด โดยเคารพในผืนดินพร้อมทั้งรักษาความสดใหม่ไวน์ Viuda Negra Crianza Rioja 2019 เป็นตัวอย่างที่ดี มีรสชาติผลไม้เข้มข้นและกลิ่นโอ๊คเล็กน้อย ทำจากองุ่นพันธ์ Tempranillo 100% จากเถาองุ่นที่มีอายุมากกว่า 20 ปี จึงไม่แปลกใจเลยที่ไวน์นี้ได้รับความสนใจจากผู้คน
Sam Lambson (นิวซีแลนด์)

ความหลงใหลในองุ่นพันธุ์ Syrah ของ Sam Lambson เริ่มขึ้นในระหว่างที่เก็บเกี่ยวผลผลิตกับผู้ผลิตไวน์ชั้นนำของแอฟริกาใต้ หลังจากเก็บเงินได้ เขาก็ไปหาซื้อองุ่น และยืมอุปกรณ์มาทำไวน์ขวดแรกของตนเอง ปัจจุบันเขาเช่าพื้นที่ในห้องเก็บไวน์ส่วนกลางและเช่าที่ดินของตัวเองเพื่อผลิตไวน์ Syrah
Lambson ขึ้นชื่อในเรื่องการทำไวน์แบบธรรมชาติ ไวน์ของเขาโดยเฉพาะจากแคว้น Canterbury เช่น ไวน์ Syrah Elgin 2020 รสชาติเยี่ยม ได้รับการยกย่องในเรื่องความบริสุทธิ์ และรสชาติที่โดดเด่น Lambson ให้ความสำคัญกับความยั่งยืน และแทรกแซงน้อยที่สุด แนวทางการทำไวน์แบบ "ปล่อยตามธรรมชาติแทรกแซงน้อยที่สุด" ของเขา และความมุ่งมั่นในการเกษตรอินทรีย์และหลักการไบโอไดนามิกกำลังสร้างมาตรฐานใหม่ในอุตสาหกรรม
Quinta da Pedra Alta (โปรตุเกส)
ไร่องุ่นใน Douro Valley แห่งนี้ได้รับการชุบชีวิตใหม่จากเจ้าของที่ยังอายุน้อย ไร่องุ่นขั้นบันไดสูง 550
เมตร สร้างสภาพอากาศเฉพาะตัวที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งมีผลต่อรสชาติขององุ่น คู่หูผู้ผลิตไวน์ Matt Gant
ชาวออสเตรเลียผู้มีประสบการณ์ระดับโลก และ João Pires คนท้องถิ่นที่มีความเข้าใจลึกซึ้งเกี่ยวกับพื้นที่นี้เป็นอย่างดีตั้งแต่ปี 2009 ได้ถ่ายทอดวิสัยทัศน์นี้ออกมา
Matt และ João ได้ผลิตไวน์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่สะท้อนดินแดน Douro ของพวกเขาโดยการแทรกแซงน้อยที่สุด วิธีการแบบดั้งเดิม เช่น การเก็บเกี่ยวด้วยมือและการเหยียบองุ่นด้วยเท้าใช้ในการหมักองุ่นขาวและแดงร่วมกัน เช่นเดียวกับในไวน์ Pedra a Pedra Clarete 2020 ที่พวกเขาสร้างสรรค์ขึ้นใหม่ ไวน์ผสมเบา ๆ และมีกลิ่นหอมนี้ใช้ทั้งองุ่นแดงพันธุ์ Tinta Barroca และ Touriga Nacional ผสมกับองุ่นขาวพันธุ์ Donzelinho Branco และ Rabigato ซึ่งให้รสชาติที่สดชื่นและแตกต่างจากไวน์แดง full-body ที่มักพบใน Douro
Viviana Malafarina (อิตาลี)
ในแคว้น Basilicata ประเทศอิตาลี Viviana กำลังคืนชีพไร่องุ่นโบราณตามแบบฉบับเก่า เส้นทางของ
Viviana ในการเป็นผู้จัดการทั่วไปและผู้ผลิตไวน์ที่โรงบ่มไวน์ Basilisco ของบริษัท Feudi di San Gregorio ไม่ใช่เรื่องธรรมดา เธอเรียกตัวเองว่า "ผู้คลั่งดิน" และมีมุมมองที่ไม่เหมือนใครซึ่งได้จากประสบการณ์ต่าง ๆ เช่น การสอนภาษาสลาฟในเมือง Kyiv และการเป็นลูกเรือบนเรือยอทช์สุดหรู
ถึงแม้จะขาดการฝึกอบรมด้านไวน์อย่างเป็นทางการ แต่ Viviana ก็สามารถประสบความสำเร็จในสภาพแวดล้อมทางประวัติศาสตร์นี้ได้อย่างดีเยี่ยม เธอสนับสนุนการทำเกษตรอินทรีย์ โดยใช้วิธีการดั้งเดิมที่ผสมผสานผัก และต้นมะกอกเข้าด้วยกันเธอได้รับการแนะนำจากที่ปรึกษาที่มีชื่อเสียง และทำการผลิตไวน์จากไร่ 60 เอเคอร์ของเธออย่างพิถีพิถัน แยกออกเป็นแต่ละไร่เพื่อให้ได้ศักยภาพสูงสุดในทุกด้าน ไวน์ Aglianico del Vulture ที่ได้จากการผลิตนี้สะท้อนถึงความสง่างามและพลังขององุ่นพันธุ์นี้ ตอกย้ำชื่อเสียงขององุ่นพันธุ์นี้ในฐานะ "Barolo of the south" Viviana ได้รับการยอมรับในท้องถิ่นจากความทุ่มเทของเธอ ชื่อเสียงของเธอน่าจะจะได้รับการยอมรับในวงกว้างมากขึ้นในอนาคต
Az. Agr. Summer Wolff (อิตาลี)
เส้นทางของ Summer Wolff ในโลกของไวน์เต็มไปด้วยความหลากหลายไม่ต่างจากบทบาทที่เธอได้ทำมา เช่น พนักงานเสิร์ฟ sommelier นักการตลาดและผู้นำเข้า (ผ่าน Hootananny Wines) ตอนนี้ Wolff กับ Fabrizio สามีที่เป็นผู้ผลิตไวน์ สนับสนุนการใช้พันธุ์องุ่นพื้นเมืองที่ยังไม่ได้รับความนิยมนัก
สัญลักษณ์ของเธอคือใช้องุ่นพันธุ์ Baratuciat โดยหมักทั้งเปลือก และองุ่นพันธุ์ Freisa ที่ได้จาก
Rosalba ตำนานในท้องถิ่นที่ขึ้นชื่อในเรื่องไร่องุ่นอินทรีย์ นี่คือไวน์ที่ผลิตโดยผู้หญิงอย่างแท้จริง โดย Wolff ได้เพิ่มเสน่ห์พิเศษให้กับไวน์ด้วยการออกแบบฉลากที่สวยงามด้วยตัวเอง
กำลังมองหาไวน์ยุคใหม่ในกรุงเทพฯ อยู่หรือเปล่า? ถ้าใช่ ยินดีต้อนรับสู่ร้าน The Riddler
หากคุณกำลังมองหาประสบการณ์การรับประทานอาหารแนวใหม่ที่ยังคงรักษาแก่นแท้ ยินดีต้อนรับสู่
The Riddler ร้านอาหารสไตล์ญี่ปุ่นและไวน์บาร์ เพลินจิต ในกรุงเทพฯ ที่เปี่ยมด้วยจิตวิญญาณของนวัตกรรม The Riddler เป็นร้านอาหารญี่ปุ่น เพลินจิต แบบดั้งเดิมที่ผสานกับเทคนิคการทำอาหารที่ล้ำสมัย เชฟของเรากล้าที่จะทดลองสิ่งใหม่ๆโดยผสมผสานรสชาติแบบดั้งเดิมเข้ากับความทันสมัยเพื่อสร้างสรรค์อาหารที่ทั้งคุ้นเคย และแปลกใหม่

แต่สิ่งที่ยกระดับประสบการณ์คือรายการไวน์ที่เราคัดสรรมาอย่างดี มีไวน์มากกว่า 200
รายการบนชั้นวางของเรา ซึ่งคุณจะได้พบกับไวน์คลาสสิกจากโลกเก่าไวน์จากโลกใหม่และแน่นอนว่ามีไวน์จากผู้ผลิตไวน์ยุคใหม่มากมาย ตามที่เรากล่าวถึงข้างต้น
ผู้ผลิตไวน์ยุคใหม่กล้าที่จะทดลอง ท้าทายขนบธรรมเนียมเดิม และสนับสนุนพันธุ์องุ่นและภูมิภาคที่น้อยคนนักจะรู้จัก ไวน์แต่ละชนิดมีเรื่องราวแสนพิเศษที่จะบอกเล่า
ที่ The Riddler ร้าน fine dining กรุงเทพ เรานำเสนอจิตวิญญาณแห่งการสำรวจรายการไวน์ของเราได้รับการออกแบบมาเพื่อให้เข้ากับเมนูแนวใหม่ของเราอย่างลงตัวไวน์แต่ละชนิดได้รับการคัดสรรมา เพราะความเป็นเลิศเฉพาะตัว และเพื่อเพิ่มรสชาติให้กับอาหาร Sommelier ของเราจะช่วยแนะนำการจับคู่ระหว่างอาหารแนวใหม่และไวน์ เพื่อให้ได้ประสบการณ์การรับประทานอาหารที่ไม่เหมือนใครในกรุงเทพฯ
จองโต๊ะวันนี้
หากคุณกำลังมองหาประสบการณ์ใหม่ๆ และค้นพบไวน์แห่งอนาคต จองโต๊ะที่ The Riddler Japanese Gastronomic Dining & Wine Bar กับเราได้วันนี้
Comments